วันนี้ผมจะมาพูดถึงสัญญายืมเงินกันนะครับ ดูๆไปแล้วเหมือนกันง่ายๆ แต่ตามกฎหมายแล้วถือว่าซับซ้อนเหมืิอนกันครับ
สัญญายืมเงินมีกี่แบบ
ยืมตามกฎหมายจะแบ่งการยืมออกเป็น 2 อย่างคือ ยืมใช้คงรูปกับยืมใช้สิ้นเปลือง ซึ่งจะแตกต่างกันที่ตัวทรัพย์ที่ให้ยืม หาโดยสภาพแล้วเป็นทรัพย์ที่ใช้แล้วไม่หมดไป เช่น รถยนต์ โน๊ตบุ้ค จะเป็นทรัพย์ที่ใช้ไม่หมดไป อาจจะเสื่อมสภาพจากการยืมได้บ้างแต่ไม่หมดไป เปรียบเทียบกับการยืมเงิน ยืมข้าว ทรัพย์พวกนี้หากว่ายืมไปแล้ว ผู้ยืมจะใช้ทรัพย์นั้นหมดไปเลย แล้วผู้ยืมจะนำทรัพย์อันนั้น อันใหม่มาคืนแก่ผู้ให้ยืม นี่คือข้อแตกต่างระหว่างยืมใช้คงรูปกับยืมใช้สิ้นเปลือง
สัญญายืมเงินมีสาระสำคัญอย่างไรบ้าง
สัญญายืมมีสาระสำคัญอยู่ที่การส่งมอบทรัพย์ที่ให้ยืม หากว่าสัญญายืมไม่มีการส่งมอบแล้ว ก็ย่อมไม่บริบูรณ์ ผลของการไม่บริบูรณ์คือจะไม่สามารถฟ้องร้องกันได้ เช่น คนยืมจะฟ้องให้ผู้ให้ยืมส่งรถยนต์ให้ตามสัญญายืมไม่ได้ แม้ว่าการยืมรถยนต์ดังกล่าวจะมีการทำสัญญาก็ตาม แต่เมื่อไม่มีการส่งมอบแล้วก็ย่อมฟ้องร้องกันไม่ได้
การที่ผู้ให้ยืมจะมีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์นั้นไม่ถือว่าเป็นสาระสำคัญของสัญญายืมเลย เนื่องจากผู้ให้ยืมอาจจะไม่ใช่เจ้าของก็ได้ อย่างที่แจ้งไว้ในตอนแรกแล้วเนื่องจากสัญญายืมไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ เว้นแต่สัญญายืมใช้สิ้นเปลืองเท่านั้น
การที่ผู้ให้ยืมส่งมอบทรัพย์ที่ไม่เหมาะสมแก่การใช้ เช่น ส่งมอบรถยนต์สภาพพุพัง ผู้ยืมก็ไม่สามารถจะเรียกร้องให้ผู้ให้ยืมส่งมอบรถยนต์ที่มีสภาพดีได้เนื่องจากสัญญายืมเป็นสัญญาที่ไม่มีค่าตอบแทน หากเปรียบเทียบกับสัญญาซื้อขาย หรือสัญญาเช่าแล้ว ผู้ขายหรือผู้ให้เช่า ต้องส่งมอบทรัพย์ในสภาพที่ดี หากส่งมอบในสภาพที่ไม่เหมาะแก่การใช้ทรัพย์แล้ว ผู้ซื้อหรือผู้เช่าสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้ หรืออาจะบอกเลิกสัญญาก็ได้
สัญญายืมเงินมีกี่แบบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น